ลมเป็นการเคลื่อนที่ของอากาศในแนวราบ
ซึ่งเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิและความกดอากาศของพื้นที่สองบริเวณ หลักการเคลื่อนที่ของลมจะพัดจากบริเวณที่มีความกดอากาศสูงไปแทนที่บริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ
หรือบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ อากาศเย็น ไปแทนที่บริเวณที่มีอุณหภูมิสูง อากาศร้อน แต่สำหรับลมที่พัดอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล
จะมีชื่อเรียกเฉพาะว่า ลมบกและลมทะเล
ลมทะเล (Sea breeze)
Shutterstock
ตามหลักการเคลื่อนที่ของลมนั้น
จะมีการเคลื่อนที่ของอากาศบริเวณที่มีความกดอากาศสูง (อุณหภูมิต่ำ)
ไปยังบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำกว่า (อุณหภูมิสูง)
ซึ่งลมทะเลก็มีลักษณะของการเคลื่อนที่ตามหลักการดังกล่าวเช่นกัน
โดยลมทะเลมักเกิดขึ้นในเวลาบ่ายหรือเย็น เนื่องจากตอนกลางวัน พื้นดินได้รับแสงแดด
ทำให้มีการสะสมความร้อนเอาไว้ เมื่ออากาศร้อนเหนือพื้นดินมีอุณหภูมิสูง
ความกดอากาศและความหนาแน่นต่ำ ทำให้อากาศเกิดการลอยตัวขึ้นสูง
อากาศบริเวณทะเลเป็นอากาศเย็นจมตัวลงพัดเข้ามาแทนที่พื้นที่ที่บริเวณพื้นดินที่มีอุณหภูมิสูงและมีความกดอากาศต่ำกว่า
ดังนั้น ลมทะเลจึงเป็นลมที่พัดมาจากทะเลเข้าสู่ฝั่ง
ลมบก (Land breeze)
Shutterstock
ลมบกเป็นลมที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืน
โดยลมบกนั้นจะมีการเกิดที่ตรงกันข้ามกับลมทะเล คือ
ในตอนกลางคืนพื้นดินสามารถคายความร้อนได้ดีกว่าพื้นน้ำ
ทำให้อากาศบริเวณพื้นดินมีอุณหภูมิต่ำกว่าพื้นน้ำทะเล ดังนั้น
อากาศจึงเย็นกว่าและมีความกดอากาศสูงกว่า
ขณะที่พื้นน้ำซึ่งคายความร้อนได้ช้ากว่าพื้นดินมีอุณหภูมิสูงกว่า
อากาศมีความหนาแน่นน้อยกว่า จึงลอยตัวขึ้นสูง
และอากาศเย็นจากพื้นดินเคลื่อนเข้าแทนที่ ทำให้เกิดลมบก
ซึ่งเป็นลมที่เกิดจากการพัดจากชายฝั่งไปยังทะเล
ประโยชน์ของลมบก
ลมทะเล
เรือประมงขนาดเล็กจะออกสู่ท้องทะเลเพื่อหาปลาในเวลากลางคืน โดยอาศัย“ลมบก”ที่พัดจากฝั่งออกสู่ทะเล
ในตอนกลางคืน พอรุ่งสางเรือเหล่านี้ก็จะอาศัย “ลมทะเล”
ที่พัดจากทะเลเข้าฝั่งในเวลากลางวัน แล่นกลับเข้า สู่ฝั่งอีกครั้งนั้นเอง
ที่มา https://sites.google.com/site/scinekkpat199/home/lmbk-laea-lmthale?fbclid=IwAR1wzAUlvdVfn1OsplkwtdzIRbwTx4JYBUeBas_fOUibMjMmrNYvKRG2Twk
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/72152/-blo-sciear-sci-?fbclid=IwAR1qZCQQ6oq4oz7K9JPQXyw5UCJkkzc1YAGocNEwUNXL5oO20qoV34-Sey8